การล้อปมด้อยไม่ใช่เรื่องสนุก "ฉันถูกรังแก"

in #thai6 years ago

Hello Steemit friends! I'm being bullied ฉันถูกรังแก

124262517.jpg

I'm being bullied ฉันถูกรังแก

บทความเรื่องนี้ได้แรงบันดานใจจากเรื่องจริง
คุณคิดยังไงกันคนที่จบชีวิตตัวเองลงด้วยการฆ่าตัวตาย คุณคิดว่าพวกเขาโง่เหรอ มันไม่ใช่เลย คุณรู้ไหมว่าอะไรที่โง่เง่า คนที่ทำร้ายพวกเขาต่างหากที่โง่ คุณเล่นสนุกกับความเจ็บปวดของคนอื่นเพราะแค่คำพูดบางคำที่ฟังดูไม่ร้ายแรงเท่าไหร่สำหรับคุณอาจฆ่าคนทั้งคนได้เลย
ฉันชื่อดมิสา อายุสิบเก้าปี ฉันจบจากโรงเรียนมัธยมปลายเอกชนชื่อดัง ฐานะทางบ้านดีหลายต่อหลายคนอิจฉาฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้เรียนต่อหรอก ฉันย้ายออกมาอยู่คนเดียวบนเกาะแห่งหนึ่งในจังหวัด คุณคงคิดสินะว่าเด็กสาวที่ชีวิตเหมือนจะดีแบบฉันไปเกี่ยวข้องอะไรกับการฆ่าตัวตาย เอาเป็นว่าฉันจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นตอนฉันอายุได้สิบสองปี ฉันเป็นเด็กเรียนดีและขยันจนแทบไม่มีเพื่อน คนที่เขามาส่วนใหญ่ก็หวังประโยชน์จากฉันแทบทุกคน ฉันแทบไม่มีเพื่อนแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะฉันไม่ชอบไปสุงสิงกับใครอยู่แล้ว ฉันไม่แน่ว่ามันเริ่มต้นยังไงรู้ตัวอีกที่ก็โดนเพื่อนร่วมห้องและเพื่อนเกือบทั้งโรงเรียนเกลียดและมันก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
สาเหตุอาจจะเป็นเพราะการสอบสอบปลายภาคของฉัน เพื่อนร่วมชั้นของฉัน "ประกายดาว" เด็กหญิงตีสองหน้าที่แอบดูคำตอบบนกระดาษข้อสอบของฉันตลอดเวลาสอบ เธอนั่งข้างหลังฉันและพยายามสะกิดฉันตลอดเวลา ฉันพยายามไม่สนใจเธอเพราะไม่อยากมีปัญหากับกรรมการคุมสอบแต่นี่แหละที่เป็นสาเหตุที่ทุกคนเกลียดฉัน
หลังจากสอบเสร็จประกายดาวก็มองฉันอยู่ตลอดและเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ทำตัวแปลก ๆ กับฉัน พวกเขาแกล้งเดินชนฉันและชอบผลักเพื่อนผู้ชายมาใส่ฉันแต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับฉันเลย ฉันจึงเลือกที่จะไม่สนใจ หลังผลสอบออกฉันได้เกรดดีที่สุดในชั้นเรียน แต่เหมือนยิ่งทำให้คนอื่นเกลียดฉันเพิ่งยิ่งขึ้น
"คนขี้โกง!" ประกายดาวกับพวกที่มีอยู่ประมาณหกคนยืนรอฉันอยู่หน้าห้องเรียนตะโกนใส่ฉันเมื่อพวกเขาเห็นฉันเดินเข้ามาใกล้ หลังพูดจบพวกเขาก็เดินมากระแทกฉันทีละคน ฉันไม่รู้ว่าฉันไปทำอะไรให้พวกเขาทำไมถึงเกลียดฉันนัก ฉันถูกกระทำแบบนี้ทุกวันจนฉันไม่กล้าพูดกับใครเลยสักคน
ฉันโกนเรียกว่าเด็กขี้โกงทุก ๆ วัน แม่ค้าในโรงเรียนผู้ปกครองเพื่อนร่วมห้องฉันแทบไม่อยากขายอาหารเที่ยงให้ฉัน ซึ่งฉันแทบไม่รู้เลยว่าฉันทำอะไรผิด
"ฉันไปทำอะไรให้เธอกัน! ฉันไม่ใช่คนขี้โกง!" วันนั่นเป็นวันที่ฉันทนไม่ไหมกับการกระทำของพวกเขา ฉันลุกขึ้นตะโกนถามทั้งห้องพร้อมน้ำตาแต่สิ่งที่ฉันได้รับคือเสียงหัวเราะจากเพื่อนทั้งห้อง วินาทีนั่นฉันรู้สึกเหมือนทั้งโลกเกลียดฉัน มันจุกเข้าไปในขั้วหัวใจ พวกเขายังคงเรียกฉันแบบนี้มาเรื่อยจนฉันแอบร้องไห้คนเดียวในห้องน้ำและไม่กล้าแม้แต่ออกไปกินอาหารเที่ยง
ฉันมารู้ที่หลังว่าสาเหตุที่พวกเขาเรียกฉันว่าขี้โกงเพราะเพื่อนร่วมชั้นที่ชื่อประกายดาวเป็นคนบอกเพื่อนทุกคนว่าฉันโกงข้อสอบแทบทุกวิชา แต่ทุกวันฉันกลับบ้านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแสร้งทำเป็นเข้มแข็งและร่าเริงต่อหน้าพ่อกับแม่เพราะฉันไม่อยากให้เขาเป็นห่วงฉัน
ตอนนั่นฉันฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ ฉันเขียนแบบไว้ในสมุดวาดเขียนเล่มโปรด ฉันนั่งทำทุกวันและทุกว่างที่ว่างไว้ว่าจะที่โรงเรียนหรือที่บ้าน ฉันทำแบบนี้มาเป็นเวลาสองเดือนกว่า ฉันลืมเรื่องร้าย ๆ ที่เคยเกิดขึ้น ฉันกลับมายิ้มได้อย่างไม่ต้องแสร้งทำอีกต่อไป แต่แล้วฝันร้ายก็กลับมาเมื่อเพื่อนร่วมฉันคนเดิมของฉันแอบมาเห็นขณะฉันกำลังออกแบบชุดอยู่
บ่ายของวันนั่นก่อนกลับบ้านสมุดเล่มนั่นของฉันหาย ฉันหามันจนทั่วแต่ก็ไปพบมันตั้งไว้ข้างถังขยะแต่เมื่อเปิดข้างในออกมา ด้านในถูกฉีกขาดไม่เหลือชิ้นดีร่วงหล่นลงบนพื้นอย่างไม่มีฆ่า เพื่อนร่วมห้องของฉันยืนหัวเราะขณะที่น้ำตาของฉันไหลเป็นทาง ฉันหันไปมองพวกเขาอย่างโมโหและแน่นอนคนคิดแผนนี้คงเป็นประกายอีกตามเดิน ฉันหยิบไว้กวาดอันใหญ่เดินเข้าไปทุบหลังของเธออย่างแรงจนเธอล้มลงร้องไห้ ฉันกระหน่ำตีไม่ยั้งมือจนเพื่อนผู้ชายจากอีกห้องมาผลักตัวฉันออก ประกายดาวโยนปากกามาใส่หน้าฉันจนปลายปากกาปาดจมูกฉันเป็นรอยแผลมาถึงปัจจุบัน
เรื่องที่เกิดขึ้นรู้ถึงหูผู้ปกครองของฉัน กลับไปถึงบ้านฉันถูกทำโทษด้วยการตีด้วยเข็มขัดหนังสำหรับชุดเนตรนารีของตัวเอง ฉันถูกห้ามไม่ให้วาดรูปอีก เขาบอกว่าดีแค่ไหนที่พ่อแม่ของประกายดาวไม่เอาเรื่องไปแจ้งตำรวจ แต่เขาไม่เคยคิดถามลูกสาวตัวเองเลยว่าทำไมถึงทำแบบนี้
ฉันระบายความเจ็บปวดของตัวเองเป็นนิทานภาพในสมุดอีกเล่ม เมื่อเรื่องจบลงฉันก็เอามันไปเผา ฉันไม่รู้ว่าตัวเองทำไปทำไมแต่ฉันคิดว่ามันดีกว่าถ้าฉันจำทำลายงานของตัวเอง ไม่ใช่ให้ใครก็ไม่รู้มาทำลายมัน
หลังจากเหตุการณ์วันนั่นก็ไม่มีใครมายุ่งกับฉัน ครูทั้งโรงเรียนไม่สนใจฉันเพราะเขามองว่าฉันเป็นเด็กเก็บกด อารมณ์รุนแรง ฉันอยู่คนเดียวไม่สนใจใครทั้งนั่น ฉันเกลียดกิจกรรมที่ต้องทำเป็นกลุ่ม กิจกรรมที่ต้องทำร่วมกับเพื่อนทั้งโรงเรียน ทุกครั้งที่มีการบ้านวันต่อมาฉันจะดูเหมือนคนมีเพื่อนเยอะเพราะพวกเขารอแต่จะเอาการบ้านฉันไปลอก หลายจากลอกเสร็จพวกเขาปามันทิ้งอย่างไม่มีค่า
เมื่อฉันอยู่มัธยมปีที่สอง มีรุ่นพี่ชายย้ายเข้ามาเรียนใหม่และเป็นคนที่ประกายดาวแอบชอบ เหมือนมันจะไม่เกี่ยวอะไรกับฉันแต่เพื่อนคนนี้ก็ทำให้ฉันเข้าไปเกี่ยวเพราะเธอไปบอกเพื่อนทั้งห้องขณะที่รุ่นพี่คนนั่นอยู่ในห้องเรียนด้วยว่าฉันชอบเขา
"ขี้เหล่ขนาดนี้ใครจะไปชอบลง ฮา ๆ" นั่นเป็นคำพูดที่ออกจากปากรุ่นพี่คนนั่น เพื่อนทั้งห้องหัวเราะเยาะฉันอีกตามเคย
"ฉันไม่โง่ไปชอบผู้ชายที่เตี้ยและขาสั้นที่สุดในโรงเรียนแบบนายหรอก" ฉันพูด เสียงหัวเราะยิ่งดังมากขึ้นพร้อมมีเสียงแทรกขึ้นมาว่า
"พูดเหมือนตัวเองสวยเลยนะ"
"หึ! เธอนะดำที่สุดในโรงเรียนแล้ว ขี้เหล่ อ้วน ดำ ขนาดนี้ ชาตินี้คงไม่มีใครเอาหรอก คนแบบเธอไม่ควรเกิดมาด้วยซ้ำ ควรตาย ๆ ไปซะ" รุ่นพี่คนนั่นเขาพูด ฉันเงียบก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินออกจากห้องเรียนออกมา และอีกเช่นเคยเรื่องนี้รู้ไปทั้งโรงเรียน ผู้ชายทั้งโรงเรียนหัวเราะเยาะเมื่อพวกเขาเห็นหน้าฉันพร้อมพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคนแบบฉันคงไม่มีใครเอามาเป็นแฟนหรอก พูดกันอย่างสนุกสนาน
ฉันหันมาเขียนบทความและวรรณกรรมเพราะฉันอยากเป็นนักเขียน เมื่อมีเวลาว่างหรือวันหยุดฉันจะอยู่แต่ในห้องเขียนวรรณกรรมและอ่านหนังสือ ฉันไม่ออกไปเที่ยวไหนเพราะแทบฉันไม่มีเพื่อนเลยสักคน ชีวิตของฉันก็แทบไม่ต่างอะไรก่อนหน้า ฉันมีเรื่องกับเพื่อนร่วมชั้นจนถูกเชิญผู้ปกครองหลายต่อหลายรอบ ฉันขอย้ายไปเรียนโรงเรียนอื่นแต่กลับถูกปฏิเสธ ผลการเรียนของฉันตกลงมาก ฉันบอกพ่อแม่ว่าฉันอยากเป็นนักเขียนแต่ถูกปฏิเสธ แล็ปท็อปของฉันถูกพ่อแม่ยึด เพราะพวกเขาคิดว่าฉันเอาแต่เล่นเกม ความฝันของฉันถูกดูถูกจากคนรอบข้างและคนในครอบครัว เขาบอกว่าเขียนนิยายเป็นเรื่องน้ำเน่า ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยอ่านผลงานของฉันมาก่อน
ตั้งแต่อายุสิบสองปีจนฉันใกล้จะเรียนจบมัธยมต้น ฉันแอบร้องไห้ก่อนนอนแทบทุกคืน พ่อแม่หรือคนรอบข้างไม่รู้เลยว่าฉันบอบซ้ำแค่ไหน ไม่มีแม้เสียงปลอบใจมีแต่คำด่าทอเมื่อฉันเล่าปัญหาให้ฟัง เขามองว่ามันเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว ฉันจึงเลือกที่จะเงียบและเก็บไว้คนเดียว
วันนั่นฉันไปหาเพื่อนบนเกาะเพื่อหางานทำและไม่ได้กลับบ้านสามวัน พ่อแม่โทรมาและเขาพูดเชิงว่าฉันไปอยู่กับผู้ชาย พวกเขาโทรศัพท์มาหาฉันให้กลับบ้านและทะเลาะกันฉันถามว่าฉันอยากมีครอบครัวขนาดนั่นเลยเหรอ มันเหมือนคนที่เจ็บทุกสุดที่ฉันเคยได้ยิน ฉันเป็นเด็กดีมาตลอด ฉันทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเขาภูมิใจแต่เหมือนมันไม่เคยดีพอ ฉันถูกพ่อแม่กักบริเวณเพียงเพราะพวกเขาเข้าใจผิด
ฉันเครียดหนักเหมือนคนเป็นโรคจิต ฉันนอนร้องไห้ทุกคืนและสะดุ้งตื่นขึ้นมาร้องไห้กลางดึกวันละหลาย ๆ รอบ จนร่างกายไม่ไหว เหมือนจะเป็นลม ทุกอย่างเหมือนพังไปหมด ฉันจึงตัดสินใจทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต ฉันคิดฆ่าตัวตาย คืนนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันกรีดข้อมือตัวเอง หากฉันตายหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่ฉันทิ้งไว้เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าทำไมฉันถึงฆ่าตัวตาย
จงจำไว้ว่าคนที่ตายด้วยการฆ่าตัวตายไม่ได้จบชีวิตของพวกเขาเอง แต่แค่ไม่อยากทนเจ็บทรมานแบบนี้อีกแค่นั่นเอง

125329352.jpg

หากผิดพลาดประการใด นักเขียนขออภัยไว้ ณ ที่นี่

ขอบคุณค่ะ