แกงเห็ดรวมมิตรน้ำใบย่านาง #กินอาหารเป็นยา ดีกว่ากินยาเป็นอาหาร

in #thai6 years ago

30429263_10210237423166166_2110341358_n.jpg

สวัสดีค่ะชาว steemit ที่น่ารัก ไม่ได้โพสต์มาหลายวันเลย แต่ก้อเข้ามากดโหวตให้เพื่อนๆ อยู่ประปราย ต้องขอโทษด้วยนะคะ ช่วงนี้ยุ่งๆวุ่นวายกะการเลี้ยงหลานตัวเล็กอยู่ค่ะ แต่ถึงจะวุ่นวายแค่ไหนก้อยังคิดถึงทุกคนนะคะ อิอิ ใครคิดถึงเราบ้างป่าวแว้

30784343_10210237423326170_685764300_n.jpg

เข้าเรื่องซะทีเน๊าะ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวานแม่หมูทำกับข้าวพิเศษแหละค่ะ หลายคนดูรูปแล้วจะพูดว่า พิเศษตรงไหนฟะ?? ก้อแค่แกงอะไรสีดำๆในถ้วย ที่แม่หมูบอกว่าพิเศษ ก็เพราะแกงนี้ทำให้คิดถึงแม่ของแม่หมูน่ะสิคะ แม่เคยทำให้กิน อร่อยด้วย แม่บอกว่า หัดกินอะไรที่ไม่ใช่ผัดๆทอดๆซะมั่งนะ ดูสิอ้วนจนจะเป็นหมูอยู่แล้ววว อยากเถียงแม่เหลือเกินว่า หมูที่ไหน ช้างตะหาก อิอิ แต่แม่หมูเป็นคนโบราณ เชื่อคำโบราณที่ว่า "บ่ฟังความพ่อแม่ ผีแก่เข้าหม้อนรก" เลยไม่เถียงล่ะค่ะ

30777120_10210237423646178_1975878843_n.jpg

แกงนี้ไม่มีชื่อนะคะ ถามแม่ แม่ก้อบอก ก็แกงเห็ดใส่ผักไง เอ๊าว์ ขุ่นแม๊...แม่หมูเลยตั้งชื่อเองเลยว่า แกงเห็ดรวมมิตรน้ำใบย่านาง เป็นแกงแบบคนอิสาน คือแกงง่ายๆมีอะไรก็ใส่ๆลงไปในหม้อ แหะแหะ ...ไม่ใช่สิ...แกงลาวแบบชาวเราคือพริกแกงไม่ต้องมีเครื่องมากมาย มีเพียงพริกกับข้าวเบือ(ข้าวสารเหนียวแช่น้ำ แล้วเอามาตำให้ละเอียด ใช้ผสมลงไปในน้ำย่านางเพื่อให้น้ำแกงข้น) เท่านี้พอ เพราะไม่ใช่แกงเนื้อหรือปลาที่ต้องเพิ่มตะไคร้ หอมแดง และกระเทียม ลงไปตำเป็นพริกแกงเพื่อดับคาว เห็นไหมคะ พริกแกงของอิสานกับของภาคกลางต่างกันตรงนี้เอง

ส่วนผสมเครื่องแกง
-น้ำใบย่านาง ปริมาณมากน้อยตามปริมาณเห็ดและผักที่จะแกง
-พริก ชอบเผ็ดมากใส่มาก เผ็ดน้อยใส่น้อย ไม่ใส่ก็ไม่เผ็ด
-ข้าวเบือ ปริมาณ 2 ทัพพี
-เห็ด ตามใจชอบ ชอบเห็ดไรก้ใช้เห็ดชนิดนั้น แม่หมูใช้ เห็ดลม เห็ดขอนขาว เห็ดหูหนู เห็ดเข็มทอง เห็ดนางฟ้า
-ผัก ใช้ บวบ ฟักทอง ยอดผักไชยา ชะอม ผักหวาน ใบแมงลัก
-น้ำปลา
-ปลาร้า

ขั้นตอนแกง
-ผสมน่ำใบย่านางกับข้าวเบือ และพริก คนให้แตก
-ยกตั้งไฟ คนอย่าให้ข้าวเบือติดก้นหม้อ
-พอเดือดใส่เห็ด รอให้เดือดอีกที
-ใส้ฟักทอง กับบวบลงไป รอให้สุก
-ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า และน้ำปลา ให้รสออกนัวๆ(อร่อย)
-ใส่ผักหวาน ผักไชยา รอให้ผักสลบ ตามด้วยชะอม และใบแมงลัก ยกลงได้เลย อย่าให้ผัดเหลือง หรือเละ
เป็นอันเสร็จเรียบร้อย จะทานกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวก้อแซ่บส์ ค่ะ

30429924_10210237423486174_507650829_n.jpg

แกงนี้เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพหรือคนที่อยากไดเอท แกงไม่มีเนื้อ ไม่มีมัน ไม่มีน้ำตาล ไม่มีผงชูรสเลย คนสัมยก่อนจีงอายุยืน และไม่มีโรคเบาหวาน ความดัน หลอดเลือด หัวใจ เหมือนคนสมัยนี้ไงคะ และส่วนผสมในแกงเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่นำมาทำเป็นอาหาร เรามาดูกันว่าส่วนผสมแต่ละอย่างมีประโยชน์อย่างไร กินอาหารเป็นยาได้ยังไง
1.น้ำใบย่านาง หมอยาโบราณถือว่าเป็นยาเย็น เป็นสมุนไพรที่มีคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติ และยังมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายอีกมากมาย เช่นวิตามิน A วิตามินB1 วิตามินB2 วิตามินB3 และวิตามินC แล้วยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีนในปริมาณค่อนข้างสูง นิยมนำมาเป็นเครื่องปรุงรสช่วยเพิ่มความกลมกล่อมของอาหารและลดความเผ็กร้อนของพริก เช่น แกงหน่อไม้ ซุปหน่อไม้ แกงเลียง แกงหวาน แกงเห็ด แกงขี้เหล็ก
2.พริก มีวิตามินและแร่ธาตุเช่น วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินซี โดยในพริก 100 กรัม จะมีวิตามินซีสูงถึง 144 มิลลิกรัม และมีธาตุแมกนีเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุเหล็ก ใยอาหาร แล้วยังเพิ่มความอยากอาหารได้อีกด้วย แนะนำว่าคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร ไม่ควรทานพริกเพราะจะทำให้กรดไปกัดแผลในกระเพาะอาหารได้
3.ข้าวเบือ คือข้าวสารเหนียวแช่น้ำแล้วนำมาตำให้ละเอียด ช่วยให้น้ำแกงเข้มข้น ภูมิปัญญาคนโบราณเมื่อเวลาแกงเห็ดแต่ไม่รู้ว่าเห็ดนั้นเป็นเห็ดพิษหรือไม่ จะแกงข้าวสารเหนียวลงไปด้วย เพื่อทดสอบ หากข้าวสารกลายเป็นสีดำแปลว่า เห็ดนั้นเป็นเห็ดพิษ กินไม่ได้แล้ว
4.เห็ดนานาชนิด เป็นแหล่งอาหารโปรตีนจากธรรมชาติที่ปราศจากไขมัน มีปริมาณน้ำตาลและเกลือค่อนข้างต่ำมีรสชาติและกลิ่นที่ชวนรับประทาน อุดมไปด้วยวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบีรวม (ไรโบฟลาวิน) และไนอาซิน ในส่วนของเกลือแร่ เห็ดจัดเป็นแหล่งเกลือแร่ที่สำคัญ เช่น ซิลิเนียม โปแตสเซียม และทองแดง
5.ผักหวานมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ที่สามารถบำรุงกระดูกและฟัน แล้วยังมีแมกนีเซียม ที่สามารถบำรุงกล้ามเนื้อและร่างกาย
6.ฟักทอง เป็นแหล่งรวมเบต้าแคโรทีน ซึ่งส่งผลดีต่อผิวพรรณ อีกทั้งยังคงช่วยบำรุงตับและไต พร้อมทั้งสายตาได้อีกด้วย
7.บวบหอม รังบวบจะมีรสหวานเป็นยาเย็นช่วยขับความร้อนคลายความร้อนในร่างกาย ดับร้อนถอนพิษ ช่วยระบายท้อง ขับลม แก้เลือดออกทางเดินอาหาร แก้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
8.ผักไชยา บ้านแม่หมููเรียกว่าผักผงชูรส เพราะรสชาติ จะคล้ายๆใบคะน้า ,ไม่เหม็นเขียว,ไม่มีรสขม ออกหวานๆมันๆ คล้ายๆผักหวานบ้าน เป็นแหล่งที่ดีของโปรตีน, วิตามิน, แคลเซียม, โพแทสเซียม และเหล็ก และสารต้านอนุมูลอิสระ ใบผักไชยายังมีระดับสารอาหารสูงกว่าผักใบเขียวชนิดใด ๆ ที่ปลูกบนดินถึง 2-3 เท่า แต่ใบผักไชยาดิบมีสารพิษจำพวกไซยาไนด์ หากจะทานต้องทำให้สุกก่อน
9.ใบแมงลัก มีสรรพคุณเป็นยาขับลม ขับเหงื่อ แก้ไอ บรรเทาอาการปวดฟันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีสารเบต้าแคโรทีนสูง มีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 เส้นใยอาหาร และไนอาซีน ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก อีกทั้งยังช่วยดูดซึมของเสียที่อยู่ในไตและยังช่วยกระตุ้นให้ขับออกมาทางปัสสาวะอีกด้วย

30429844_10210237422846158_92179208_n.jpg

ประโยชน์มากมายมหาศาลขนาดนี้ แม่หมูขอเชิญชวนชาว steemit ที่รักสุขภาพ ลองทำทานกันดูนะคะ ผลเป็นอย่างไรมาเล่าให้ฟังบ้างเด้อจร้าา ตอนนี้แม่หมูขอเชิญทุกคนทานข้าวกับแม่หมูด้วยเลยละกัน ทำไว้หม้อเบ้อเร่อ แถมข้าวเหนียวนุ่มๆเป็นกระติ๊บเลย

30859703_10210237423006162_729414531_n.jpg

ขอขอบคุณ เพื่อนๆทุกคน ที่ติดตาม เรื่องราวของแม่หมู ยอมรับว่าเขียนไม่ค่อยเก่งนัก ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคะแนนโหวต + คอมเม้นท์ นะคะ
จากใจ@Maemooค่ะ

Sort:  

กำลังกลับมาจากสวน ถ้าอยู่ใกล้จะไปขอกินด้วยแล้วครับ ^^ หลานกำลังน่ารักเลยครับ สุขภาพแข็งแรงโตไวๆนะครับ สู้ๆครับคุณยายยังสาว 😊😊

เสียดายเน๊าะ ไม่เป็นไรค่ะ แม่หมูทานเผื่อเลยละกัน ขอบคุณสำหรับกำลังใจ สู้ๆ ค่ะ

เสียดายถ้าเมื่อก่อนผมกินแบบนี้ ในร่างกายผมคงไม่มีเบาหวาน ความดันสูง และ ไขมัน

ยังไม่สายดอกค่ะ แค่ปรับวิธีกิน เวลานอน แล้วก้อออกกำลังกาย เดี๋ยวก้อดีขึ้นนะคะ ถ้าอยู่ใกล้จะแนะนำให้ทานยูมีโกลด์กะแปดเซียน

ตะแซป เด้ค่ะ น่ากินมากค่ะ คิดถึงบ้านเลย

แซบอะหลีค่ะ ชิมแล้ว อิ่มเลยยยย กลับบ้านเรา รักรออยู่ อิอิ

น่าทานสุดๆคะ

ขอบคุณค่ะ...ทานด้วยกันนะคะ