สวัสดีค่ะเพื่อนๆ สืบเนื่องจากโพสที่แล้ว เราได้พูดถึงการสมัครงานในมาเลเชีย ซึ่งหลังจากที่เราเจองานที่สนใจเกี่ยวกับด้าน computer เราก็รีบส่ง resume เลย วันถัดมาก็มีคนโทรหาค่ะ (เร็วมาก) ซึ่งเขาเป็น agency นะคะ และเขาก็ต้องการสัมภาษณ์เราวันนั้นทันที การสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดค่ะ เมื่อสัมภาษณ์เสร็จ เขาก็ติดต่อมา บอกว่าให้เราสัมภาษณ์กับหัวหน้าแผนกของบริษัทผ่าน skype อีกครั้ง ในวันถัดมา และเมื่อเราสัมภาษณ์เสร็จ agency ก็ติดต่อเรากลับมาเพื่อบอกผลลัพท์ สรุปว่าเราผ่านค่ะ ได้งานทำแล้ว ซึ่งตอนนั้น เราเพิ่งได้งานทำในมาเลเชียครั้งแรกยังไม่รู้รายละเอียดอะไร agency ก็เร่งเรามากด้วย ทำให้เราตอบตกลงและเซ็นสัญญากับเขาไป และเขาบอกอีกว่าให้เริ่มงานได้เลยในอาทิตย์ถัดไป ตอนนั้นยังงงๆอยู่เลย เขาก็ให้เราไปทำงานก่อน ทั้งๆที่ตอนนั้นเราก็ยังไม่มีที่อยู่ค่ะ เราก็พยายามหาที่อยู่ที่ใกล้ที่ทำงานที่สุดตามที่ agency ส่งที่อยู่มาให้เราคือใน Kuala Lumpur เพื่อที่เราสามารถเดินไปทำงานได้สะดวก ตอนนั้นก็เราหาที่พักในอินเตอร์เนตและติดต่อคอนโด เรียบร้อยแล้ว และจ่ายค่ามัดจำล่วงหน้า รวมทั้งสิ้นประมาณ เกือบ 4000 RM หรือประมาณ 32000 บาทค่ะ
เมื่อวันทำงานมาถึง เราก็ตื่นแต่เช้าตรู่และเดินไปบริษัท เมื่อถึงตึกเราก็หาบริษัทไม่เจอและได้สอบถามประชาสัมพันธ์ของตึกว่า บริษัทชื่อนี้อยู่ตรงไหนของตึกค่ะ เขาก็บอกเราว่า บริษัทชื่อนี้ไม่มีอยู่ที่นี้นะ เราก็เริ่มตกใจแล้วแต่คิดว่าที่นี้ไม่ผิดแน่ เลยโทรไปถามหัวหน้าบริษัท เขาก็บอกว่าให้รอข้างหน้าแล้วจะให้คนมารับเรา เรารอได้ประมาณ 10 กว่านาที จึงโทรไปอีกครั้งนึง และได้รับคำตอบว่า เรามาผิดที่ แถมบริษัทจริงๆ อยู่คนละอำเภอ คือที่ Cyberjaya ค่ะ (ซึ่งตอนนั้นเราเริ่มรู้สึกว่านี้เราโชคไม่ดีตั้งแต่วันแรกของการทำงานเลยหรอ เพราะอีกแค่ครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาทำงานแล้ว นี้) เราก็บอกหัวหน้าว่าเราได้ที่อยู่นี้มาจาก agency หัวหน้าก็เข้าใจเรา และบอกเราว่า วันนี้อนุญาติให้มาช้าได้ ซึ่งเราต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงเพื่อเดินทางไปถึงอีกบริษัทจริงๆ เพราะว่า อยู่คนละอำเภอ เมื่อไปถึงก็มีรุ่นพี่มาสอนงานให้ค่ะ (ในส่วนของรายละเอียดงาน เราขออนุญาติไม่พูดถึงนะคะเพราะเป็นนโยบายของบริษัท) แต่คราวๆคือ เป็นบริษัท computer และเราต้องใช้ ภาษาอังกฤษ ประมาณ 80% ทั้ง พูด อ่าน และ เขียน บริษัทมีประกันสุขภาพให้ มีวันหยุดตรงกับวันหยุดของประเทศมาเลเชีย มีวันลาป่วย และ ยังมีวันหยุดต่างหาก อีก 12 วัน โดยเริ่มทำงาน ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ค่ะ (เวลามาเลเชีย) วันนั้นเราต้องเดินทางไปกลับ ประมาณสองชั่วโมง ซึ่งค่อนข้างเป็นเวลาที่นาน ตอนนั้นจึงตัดสินใจว่าย้ายที่พักมาอยู่ใกล้ที่ทำงานดีกว่า และเมื่อกลับถึงบ้านใน Kuala Lumpur จึงได้คุยกับเจ้าของบ้าน และเขาก็ไม่สามารถคืนเงินค่ามัดจำให้เราได้ค่ะ ตามกฏหมายของที่นั้น สรุปว่า เราจะเสียเงินไปประมาณ 30000 บาท เพราะสาเหตุเกิดจาก agency ส่งที่อยู่มาให้เราผิด เราเลยโทรไปถาม agency ว่าเขาสามารถรับผิดชอบอะไรตรงนี้ได้ไหม ซึ่งเขาไม่รับผิดชอบอะไรค่ะ ตอนนั้นคิดว่า ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงแล้วกัน (ยังไม่เริ่มทำงานก็เสียเงินแล้ว T^T)
นี่ก็เป็นประสบการณ์ที่ซาญ่าได้เจอมาและอยากมาแชร์กับเพื่อนๆค่ะ ถ้าเพื่อนๆต้องการหางานที่มาเลเชียควรตรวจสอบ agency ให้ดีอย่าเพิ่งตอบตกลงจนกว่าจะแน่ใจ ยิ่งถ้ามีเพื่อนมีคนรู้จักแนะนำมาก็จะดีมากเพราะเราสามารถรู้ข้อมูล เกี่ยวกับการดูแลคนของ agency นั้นได้โดยตรงเลย
agency คือคนที่หาตัวเราไปป้อนให้บริษัทและจะได้รายได้จากการหักเปอร์เซนต์จากเงินเดือนของเราซึ่งเขาจะเป็นฝ่ายดูแลเราในเรื่องต่างๆรวมถึงเรื่องเงินเดือน ซึ่งถ้าเจอ agency ที่ดีดูแลสม่ำเสมอก็ถือว่าโชคดี สามารถทำงานได้อย่างมีความสุขไม่ต้องกังวลอะไร แต่ถ้าเจอ agency ที่แย่พอเราเซนต์สัญญาก็จะปล่อยประละเลย มีเรื่องอะไรเราต้องคอยตามทวงทุกอย่าง เจอแบบนี้ก็คงเหนื่อยใจที่ต้องคอยตามสิทธิประโยชน์ต่างๆที่เราควรได้จาก agency
ซึ่งจากประสบการณ์ตัวเองและที่เราได้สอบถามจากเพื่อนๆ หลายคน ส่วนใหญ่จะมีการดูแลไม่สม่ำเสมอ ยิ่งเมื่อจะหมดสัญญาและเราไม่ต่อสัญญาและต้องการเอกสารจากทางฝั่งเขา จะตามตัวยากมาก ถ้าให้ดีที่สุดคือเราสมัครงานโดยตรงกับบริษัทไปเลย ซึ่งถ้าได้ก็ถือว่าโชคดีมากค่ะ เพราะเขาจะดูแลเราดีกว่า หลายๆบริษัทให้ที่พักฟรีช่วงเดือนแรก มีสวัสดิการดี อะไรที่เป็นประโยชน์กับเราเขาก็พยายามหามาให้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับบริษัทด้วยนะคะ ว่าให้มากให้น้อยแค่ไหน แต่งานแนวนี้จะหาค่อนข้างยากและจะเป็นงานแนวเฉพาะทางจริงๆ
ถ้าเพื่อนๆ ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถพิมพ์ลงได้ข้างล่างเลยค่ะ
บทเรียนราคาแพงไปหน่อยครับ แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ^^
ใช่ค่ะ หลายบาทเลย ประสบการณ์จะได้สอนเรา ให้ระมัดระวังมากขึ้นเนอะ
ประเทศมาเลเซียสวยงามมากค่ะคุณซาญ่า
ขอบคุณสำหรับการแชร์ประสบการณ์และข้อมูลดีๆที่นำมาแบ่งปันนะคะ
สวยงามค่ะ เมืองเขาสะอาด เป็นระเบียบ แต่ของกินซาญ่าชอบที่ไทยนะ อิอิ
พี่ชายก็ทำงานที่มาเลเซียค่ะ ตอนไปครั้งแรก ก็คล้ายๆกันคือ หางานผ่านเอเจนซี่ และเอเจนซี่ ทำงานไม่ค่อยโอเค เพราะวันที่พี่ชายไปถึงที่นั่น แต่ work permit ยังไม่ได้ ทำให้พี่ชายต้องไปนอนในห้องขัง 1 คืน
แต่ตอนนี้ทำได้เกือบ 10 ปีแล้ว เปลี่ยนงานก็หลายครั้งแล้ว แต่ก็เป็น
เซียนมาเลย์ ไปละค่ะ 555
โห ถึงขนาดนอนห้องขังเลย ตอนนี้พี่ชายเป็นที่ปรึกษาได้แล้วอ่าจิ ^^/
ถ้าสงสัย น่าจะลองถามๆ เค้าได้นะคะ :)
เมื่อก่อนเพื่อนก็เคยชวนผมไปทำงานที่มาเลเซียเหมือนกันแต่พอดีผมได้งานที่เมืองไทยก่อน
ขอบคุณสำหรับการแชร์ประสบการณ์ด้วยนะครับคุณซาญ่าเรื่องนี้มีประโยชน์มากๆ^^
ทำงานแต่ละประเทศก็จะมีความแตกต่างกันไปเนอะ ประสบการณ์ของทุกคน สามารถเป็นประโยชน์ให้อีกหลายๆคน ^^/
เก่งมากๆเลยค่ะ
พี่อ่านไปแล้วแบบคือดี
สมัยพี่ยังวนอยู่ในไทยนี่แหละ
ปรบมือให้น้องสาวคนเก่งหน่อย 👏 👏 👏
ขอบคุณมากค่ะพี่ตุ๊กติ๊ก น้องต้องรีบหาประสบการณ์อีกเยอะ ต้องรีบทำอีกหลายๆอย่าง ก่อนจะไม่ได้ทำค่ะ ^^/
พี่มั่นใจเราทำได้และได้ทำแน่นอนค่ะ
ลุย!!
เก่งมากค่ะคุณซาญ่า นี่แหละค่ะที่เขาเรียกว่าชีวิต ต้องเจอกับปัญหาอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ใช่ว่าเราไม่รอบคอบ แต่มันเกิดจากปัจจัยอื่น
ถ้าไม่เจออะไรเลย ก็ไม่ใช่ชีวิตสิเนอะ และใช่ค่ะ มีหลายปัจจัย ทำให้เกิดเรื่องหลายๆอย่างด้วย
เก่งมากๆเลยค่ะ เป็นประสบการณ์ที่ดีเลย ขอให้ทำงานราบรื่นนะคะน้องซาญ่า...ตึกรามที่นั่นสวยมากค่ะ :)
ขอบคุณค่ะ พี่จุ๋ม แต่ตอนนี้ซาญ่าทำงานครบสัญญาหนึ่งปีแล้วค่ะ และได้ลาออกมา ส่วนการทำงานเราก็ต้องเจออุปสรรคบ้างเนอะ แต่เราก็ต้องก้าวข้ามผ่านให้ได้ค่ะ ^^/
เป็นประสบการณ์ราคาใช้ได้เลย 😅 ขอบคุณที่มาแชร์ เล่าสู่กันฟังครับ 😀
แชร์กันจะได้ไม่ติดกับ อิอิ