My best life’s coach บ่นไปเรื่อยเรื่องการโค้ชชีวิต

in #thai6 years ago (edited)

หลายปีที่ผ่าน เราเองก็เหมือนใครหลายคนที่ รัก ชอบในการพัฒนาตัวเอง
(เพราะอยากเก่ง มีความสามารถ และดีขึ้นในเรื่องที่อยู่ในความสนใจ อยากรู้ )
โดยใช้เวลาอ่านจากบทความตามเพจ หนังสือ หรือดูจาก YouTube Facebook live etc.
บางครั้งก็ต่อยอดความสนใจ ลงทุนเพิ่มด้วยการสมัครเข้าคอร์ส อบรมสัมมนา ลงทะเบียนเรียนเพิ่ม ฯลฯ

จากจุดนี้เองที่ทำให้มีโอกาสได้เจอกับ โค้ช กูรู ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ในสายงานต่างๆ
ซึ่งก็มี และได้ประโยชน์บ้าง แต่ต้องยอมรับว่าเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยราวๆ 3-5% เท่านั้น
จากที่ไปฟังมาทั้งหมด

บ่อยครั้งกลับบ้านมา กลับรู้สึกผิดหวัง เสียดายเงิน เสียดายเวลา ที่พาตัวเองไปนั่งฟัง

คนที่เหมือนจะรู้ แต่จริงๆไม่รู้อะไรเลย

บางคนก็ลอกมาจากหนังสือ ( ที่เราเคยอ่าน ) Copy วิธีการมาจากนักพูดนักเขียนชาวต่างชาติ เกือบทั้งหมด

บางคนหนักกว่า เพราะหาประโยชน์จากผู้เรียน ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นคนที่ยังไม่รู้ ยังไม่เข้าใจ ในเรื่องนั้นๆ

การหาประโยชน์แบบนี้ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ โดยส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่น่าเกลียด ขาดคุณธรรม ไร้ซึ่งจรรยาบรรณในการเป็นผู้สอน ไม่เหมาะที่จะเรียกตัวเองว่าครู กูรู ผู้รู้ หรือผู้ให้

เรียกว่า “พ่อค้าที่หากินบนความไม่รู้” น่าจะเหมาะสมกว่า

ผมไม่ได้ไปร่วมสัมมนาอะไรกลวงๆแบบนี้มานานหลายปีแล้ว แต่ที่ต้องนำเรื่องนี้มาเขียนลัดคิวเรื่องอื่น
เพราะเริ่มเห็นหลายคนได้รับผลเสียหาย จากการถูกชักชวน หรือหลงเข้าไปฟังการโค้ชชิ่งอะไรปลอมๆแบบนี้ ( ที่ดีจริงก็มี แต่ที่ไม่ดีก็มีอยู่ไม่น้อย ) ก็เลยต้องรีบมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อจะได้ระวังๆกันไว้

ล่าสุดมีเพจฯบางเพจ นำเรื่อง ความกลวงและลวงหลอกของโค้ชเหล่านี้มาเปิดเผย ยิ่งยืนยันถึงสิ่งที่ผมไปประสบพบเจอมาว่าเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่อคติ หรือคิดไปเองฝ่ายเดียว

ตอนนั้นบอกไปก็ไม่มีใครเชื่อว่าคนเหล่านั้นเป็นแค่ ของปลอม และเป็นได้แค่ พ่อค้า/แม่ค้า ที่หากินบนความไม่รู้ ของคนอื่นเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องพึงระวัง ไม่พาตัวเองและคนรอบข้าง เข้าไปยุ่งเกี่ยว เสียเงิน เสียเวลากับคนเหล่านี้

สุดท้าย ผมก็กลับมานั่งคิด สำหรับคำถามที่ใช้เป็นหัวข้อสำหรับโพสต์ในวันนี้

ใครควรเป็น The Best of life’s coach สำหรับเรา?

ในเบื้องต้น คำตอบสำหรับผมคือ ตัวเราเอง

เราต้องพาตัวเองให้พ้นจากความไม่รู้ รวมถึงกลุ่มคนที่คอยแสวงหาประโยชน์จากความไม่รู้ของเราให้ได้ก่อน จากนั้นถึงจะพาตัวเราออกไปหาผู้รู้ หรือแหล่งแห่งความรู้แท้ที่จะนำไปสู่ชีวิตที่ดีได้ นั่นคือคำตอบ

A5DAA3AD-D0AB-4E87-9AE8-9740BE299ADC.jpeg

Sort:  

มาโคชกับผมฟรีครับ555

ขออนุญาตแชร์คะ ส่วนตัวแล้วเคยศึกษา วิธีการโค้ชชิ่ง อะไรพวกนี้มาพอสมควร แต่ไม่เคยตัดสินใจเสียเงินไปอบรม เพราะประเด็นสำคัญ กลุ่มคนโค้ชชิ่งพวกนี้ไม่เผยประวัติการศึกษา การทำงาน ให้น่าเชื่อถือ ชัดเจน นั้นสัณนิษฐานได้เลยว่าไม่มีคุณภาพแน่นอน คนไทยส่วนใหญอุปทานหมู่ ใครว่าดีก็ไป .... ขอแนะนำวิธีเพิ่มศักยภาพให้ตัวเองง่ายๆคะ อ่านหนังสือมากๆ หนังสือเลยนะคะไม่ใช่โชเชียลมีเดีย ฟังมากๆ ถ้ามีโอกาสได้คุยกับผู้ประสบความสำเร็จเฉพาะด้านจริงๆ จะดีมาก มีรายการนึงที่น่าสนใจ คือ รายการสัญญามหาชน ช่วงสัมภาษณ์คน ลองฟังดูคะ บางทีก็ได้คิดเหมือนกัน ...

ชอบคำว่าอุปทานหมู่ครับ เห็นภาพชัดเจนดี 😊ขอบคุณสำหรับแนวคิด แนะนำรายการ และวิธีเพิ่มศักยภาพ ในการพัฒนาตัวเอง

ทุกวันนี้ก็ใช้วิธีอ่าน ดูคลิปสอน ลงมือทำ เรียนรู้ผลลัพท์ และนำมาพัฒนาปรับปรุง

เลิกเสียตังค์ให้การโค้ชชิ่งแบบนั้นมาหลายปีมากแล้ว แต่ที่ต้องเอามาโพสต์ ก็ตามเหตุผลที่เขียนไว้

ไม่อยากให้ใครเสียเงิน เสียเวลา เสียท่า เสียความรู้สึก เหมือนที่เราเคยโดนมาก่อนเท่านั้น

ดีใจ และขอบคุณที่มาแชร์ความคิดเห็นในเรื่องนี้ ขอบคุุณมากนะครับ 😊

โดยส่วนตัวเคยมีเพื่อนที่เข้าไปวงการแบบนี้หลายคน และแต่ละคนก็จะชักชวนให้เราเข้าร่วมด้วย หลักๆที่สำคัญในการชักชวนคือ เฮ้ย ได้เงินนะ เฮ้ยได้เงินง่าย เฮ้ย จะรวยเป็นเศรษฐีนะ อะไรเถือกนี้ เคยเข้าร่วมรับฟังบ้าง แต่ความคิดของเราก็จะรู้สึกต่อต้านตลอดเวลากับคำพูดของนักพูดเหล่านั้น แอนคิดว่าไม่มีอะไรที่เราได้มาง่ายๆโดยไม่ลงแรงทำค่ะ หลังจากนั้นก็หันหลังให้กับสังคมนักพูดเหล่านั้น ปฏิเสธไปตามตรงว่าเราไม่ชอบ ส่วนเพื่อนๆที่เคยเป็นสมาชิก ก็ไม่เห็นมีใครประสบความสำเร็จตามคำพูดสวยหรูแบบนั้นซักคนค่ะ

หลายคนถึงกับเป็นปมในใจ เพราะเสียเพื่อน เสียคนรัก เสียเครดิต คนรอบกายหนีหายไม่อยากยุ่งเกี่ยว ไม่อยากเจอ โทรมาแทบไม่อยากรับ

นอกจากไม่สำเร็จอย่างที่พูด บางคนหนักกว่านั้น เพราะโดนอัปไลน์ หรือบริษัทที่ไปนั่งฟังหลอกให้รักษายอด ( แต่ขายไม่ออก หาสมาชิกไม่ได้ ) ต้องกลับออกไปพร้อมหนี้สินก้อนโต

ผ่านมาเกือบสิบปี เพื่อน กับรุ่นพี่หลายคน ที่เคยชวนผมไปฟังสัมมนาปลุกใจอะไรแบบนี้ ยังทำงานใช้หนี้ที่มีสาเหตุมาจากเรื่องนี้อยู่เลยครับ 😓

ทั้งหมด อาจเริ่มต้นมาจากการเผลอไปนั่งฟังโค้ชกลวงๆพวกนี้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมอยากเขียนโพสต์เพื่อเตือนให้ระวังกันไว้

ขอบคุณคุณ @ninra มากๆที่มาเล่าสู่กันฟังถึงประสบการณ์จริงที่เจอมาครับ 🙂